พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
เข้าสู่ระบบ
หน้าแรก
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ค้นหาข้อมูล
เข้าสู่ระบบ
สมเด็จพระครูลมู...
สมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์มีหน้าตา ๒๔๙๕ ที่ 3 งานเชียงใหม่
สมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์มีหน้าตา ๒๔๙๕ ต้นตำหรับแห่งการนำเนื้อหามวลสารสมเด็จฯ มาสร้างพระขึ้นใหม่ ใครบูชาพระสมเด็จพระครูมูลติดตัว ก็เหมือนใช้พระสมเด็จวัดระฆังดี ๆ นั่นเอง เคล็ดลับที่ไม่ลับในการศึกษาเนื้อหาพระสมเด็จพระครูมูลนั้น นอกจากเนื้อเก่าของพระสมเด็จฯ แล้ว ท่านยังผสมผงตะไบพระกริ่งรุ่นต่างๆของวัดสุทัศน์ลงไปเป็นจำนวนมากอีกด้วย ! ดังนั้นนอกจากพุทธคุณจากผงพระสมเด็จฯ ยังมีผงตะไบพระกริ่งระดับต้นตำหรับของพระกริ่งแห่งฟ้าเมืองไทยอีกด้วย พระครูมูลท่านมีฐานะเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดาของวัดสุทัศน์ เท่านั้น เป็นพระสวดพิธีธรรมในพิธีปลุกเสกพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ของวัดสุทัศน์ที่วัด สุทัศน์จัดขึ้นไม่ค่อยปรากฎชื่อเสียงทางวิทยาคมเหมือนพระเกจิอาจารย์ท่าน อื่น ๆ ในยุคสมัย 60-70 ปีก่อน แต่ความรู้เรื่องวิทยาคมลูกศิษย์บอกว่าท่านก็มีพอตัวอยู่ เพราะว่าพระสงฆ์สมัยก่อนเมื่อบวชแล้วหรือยิ่งบวชนานหลาย ๆ พรรษา ก็มักจะมีการเรียนวิชาอาคมเพื่อประดับตัวเอาไว้เสมอ พระ ครูมูลท่านรู้กิตติศัพธ์ของพระสมเด็จวัดระฆังมานานแล้ว ท่านจึงพยายามเก็บรวบรวมพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักเป็นท่อน ๆ เอาไว้ คนเมื่อรู้ว่าพระครูมูลเก็บรวบรวมชิ้นส่วนชำรุดของพระสมเด็จวัดระฆังเพื่อจะ สร้างพระขึ้นใหม่ จึงนำเอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังมาถวายท่านกันเรื่อย ๆ เนื่องจากสมัยนั้นคนยังมีคติไม่นิยมเอาพระที่แตกหักชำรุดไว้ในบ้าน จึงทำให้มีคนนำเอาพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักมามอบให้พระครูมูลมากขึ้น ทุก ที ๆ ว่ากันว่าพระครูมูลท่านเก็บสะสมชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็น จำนวนมากเป็นปี๊บ ๆ กันเลย เมื่อเก็บรวบรวมชิ้นชิ้น ส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็นจำนวนมากเพียงพอต่อความต้องการแล้ว พระครูมูลจึงเอาชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆังเหล่านั้นมาป่นให้ละเอียดและผสม กับปูนขาวเป็นเนื้อหลัก แล้วสร้างเป็นพระสมเด็จขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2484 เป็นพิมพ์เกศบัวตูม เมื่อกดพิมพ์พระได้จำนวนเท่าที่ต้องการแล้ว พระครูมูลท่านได้นำเอาพระสมเด็จที่ท่านสร้างนี้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพร้อมกับ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ที่ทางวัดสุทัศน์จัดขึ้น ความ จริงแล้วพระสมเด็จที่พระครูมูลสร้างขึ้นมาในครั้งนั้นถึงจะไม่นำฝากเข้าร่วม พิธีปลุกเสก ก็มีความศักสิทธิ์ในตัวอยู่แล้ว เนื่องมาจากมีผงเก่าผสมอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง แต่ด้วยความที่อยากให้พระสมเด็จมีพุทธคุณมากยิ่ง ๆ ขึ้น พระครูมูลท่านจึงเอาพระเข้าร่วมพิธีปลุกเสกด้วย ระหว่างนั้นเมื่อมีใครมาขอพระสมเด็จจากพระครูมูลท่านก็จะหยิบแจกให้ฟรี ๆ ไปเรื่อย ๆ ส่วนที่เหลือเมื่อมีพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์ครั้งใด ท่านก็จะนำเอาพระสมเด็จฝากเข้าร่วมในพิธีอีก ใครมาขอก็แจกให้ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพระสมเด็จที่ท่านสร้างครั้งแรกหมดไป จนกระทั่งมาในปี พ.ศ. 2495 พระครูมูลท่านได้เอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังที่เหลือจากการสร้างพระ สมเด็จครั้งแรก มาผสมกับชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จบางขุนพรหมที่ท่านหามาเพิ่มเติมทีหลังสร้างขึ้นใหม่อีก ครั้งนี้ท่านสร้างเป็นพิมพ์พระธาน แบบมีหน้าตา ซึ่งจะปรากฏรายละเอียดสวยงามกว่าพระสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูมที่ท่านสร้างขึ้น ครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีการสร้างเป็นพิมพ์นางพญา พิมพ์สามเหลี่ยม และ พิมพ์พระคะแนน ด้วย ซึ่งการสร้างพระสมเด็จของพระครูมูลครั้งหลังนี้ท่านก็ทำเหมือนครั้งแรก คือฝากเข้าพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์จัดขึ้นทุกครั้ง แล้วก็แจกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด พระสมเด็จของพระครูมูลมีการ นิยมมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกพระสมเด็จจากท่านต่างมีประสบการณ์ทางด้านนิรันตราย กันมาก จึงนิยมใช้แทนพระสมเด็จวัดระฆังนับแต่นั้นมา พูดถึงพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยมของพระสมเด็จพระครูมูลก็มีผู้มีประสบการณ์ กันมากไม่รู้เท่าไหร่ ๆ กันแล้ว เพราะว่าไปแล้วการใช้พระสมเด็จพระครูมูลก็เหมือนใช้พระสมเด็จวัดระฆังดี ๆ นั่นเอง นอกจากนี้พระสมเด็จของพระครูมูล โดยเฉพาะพิมพ์ทรงเจดีย์ที่เป็นพระยุคแรกของท่าน จะมีเนื้อหามวลสารเข้มจัดคล้ายกับเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังมาก มีการนำพระของท่านมาแกะเปลี่ยนพิมพ์ขายเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ ไปแล้วมากมาย แม้แต่ชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จของท่านก็นำไปแกะเป็นพระคะแนนแล้วหลอกว่า เป็นชิ้นส่วนสมเด็จวัดระฆังขายไปองค์ละหลายหมื่นบาท เป็นเหตุที่ทำให้ท่านต้องทำพิมพ์พระสมเด็จขึ้นใหม่เป็นพิมพ์แบบมีหน้าตา ในปี 2495 เพื่อแก้ปัญหาคนนำพระของท่านไปหลอกขายแก่ผู้ไม่รู้เสียมากมาย สรุปว่าพระสมเด็จของพระครูมูล เป็นพระที่น่าใช้มาก เพราะเป็นพระตระกูลสมเด็จยุคปลายที่มีส่วนผสมของมวลสารของพระสมเด็จวัดระฆัง ไว้มากที่สุด ในระดับเดียวกับ พระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง ที่สร้างยุคต้น พ.ศ. 2485 ทำให้น่าเก็บไว้ศึกษาและบูชาอย่า
ผู้เข้าชม
3222 ครั้ง
ราคา
2000
สถานะ
ยังอยู่
โดย
STW.
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
ร้านค้า
-
โทรศัพท์
0805504569
ไอดีไลน์
stw099
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน
ปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ
ปิดตาหูกระต่าย เนื้อกะลา หลวงพ
เหรียญเสมาเครื่องหมายกาชาด หลว
เหรียญหลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ป
เหรียญพระหลวงพ่อพิธ วัดฆะม้ง
เหรียญหลวงพ่อคูณ ปี 2519 วัดให
กริ่งพุทธวิโมกข์หลวงปู่โง่นหล
หลวงปู่ทวด ปี2497
หมูป่าพระอาจารย์สมคิด
เก้าสิบเก้าวัด
ร้านพระเครื่อง
กระดานสนทนา
ลงพระฟรี
สมัครสมาชิก
ติดต่อทีมงาน
ลืมรหัสผ่าน
ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
Popgomes
akira
termboon
ep8600
trairat
sorasak
หมี คุณพระช่วย
โจ๊ก ป่าแดง
kaew กจ.
chathanumaan
นานา
ภูมิ IR
Putanarinton
someman
rungsunti
doonjan_47
natt29
นรินทร์ ทัพไทย
vanglanna
โก้ สมุทรปราการ
พุทธศาสตร์99
fuchoo18
พรรษา
เปียโน
ยิ้มสยาม573
ชา วานิช
บ้านพระสมเด็จ
บ้านพระหลักร้อย
Pichet Pkc
พระเครื่องโคกมน
ผู้เข้าชมขณะนี้ 1406 คน
เพิ่มข้อมูล
สมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์มีหน้าตา ๒๔๙๕ ที่ 3 งานเชียงใหม่
ส่งข้อความ
ชื่อพระเครื่อง
สมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์มีหน้าตา ๒๔๙๕ ที่ 3 งานเชียงใหม่
รายละเอียด
สมเด็จพระครูลมูล วัดสุทัศน์ พิมพ์มีหน้าตา ๒๔๙๕ ต้นตำหรับแห่งการนำเนื้อหามวลสารสมเด็จฯ มาสร้างพระขึ้นใหม่ ใครบูชาพระสมเด็จพระครูมูลติดตัว ก็เหมือนใช้พระสมเด็จวัดระฆังดี ๆ นั่นเอง เคล็ดลับที่ไม่ลับในการศึกษาเนื้อหาพระสมเด็จพระครูมูลนั้น นอกจากเนื้อเก่าของพระสมเด็จฯ แล้ว ท่านยังผสมผงตะไบพระกริ่งรุ่นต่างๆของวัดสุทัศน์ลงไปเป็นจำนวนมากอีกด้วย ! ดังนั้นนอกจากพุทธคุณจากผงพระสมเด็จฯ ยังมีผงตะไบพระกริ่งระดับต้นตำหรับของพระกริ่งแห่งฟ้าเมืองไทยอีกด้วย พระครูมูลท่านมีฐานะเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดาของวัดสุทัศน์ เท่านั้น เป็นพระสวดพิธีธรรมในพิธีปลุกเสกพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ของวัดสุทัศน์ที่วัด สุทัศน์จัดขึ้นไม่ค่อยปรากฎชื่อเสียงทางวิทยาคมเหมือนพระเกจิอาจารย์ท่าน อื่น ๆ ในยุคสมัย 60-70 ปีก่อน แต่ความรู้เรื่องวิทยาคมลูกศิษย์บอกว่าท่านก็มีพอตัวอยู่ เพราะว่าพระสงฆ์สมัยก่อนเมื่อบวชแล้วหรือยิ่งบวชนานหลาย ๆ พรรษา ก็มักจะมีการเรียนวิชาอาคมเพื่อประดับตัวเอาไว้เสมอ พระ ครูมูลท่านรู้กิตติศัพธ์ของพระสมเด็จวัดระฆังมานานแล้ว ท่านจึงพยายามเก็บรวบรวมพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักเป็นท่อน ๆ เอาไว้ คนเมื่อรู้ว่าพระครูมูลเก็บรวบรวมชิ้นส่วนชำรุดของพระสมเด็จวัดระฆังเพื่อจะ สร้างพระขึ้นใหม่ จึงนำเอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังมาถวายท่านกันเรื่อย ๆ เนื่องจากสมัยนั้นคนยังมีคติไม่นิยมเอาพระที่แตกหักชำรุดไว้ในบ้าน จึงทำให้มีคนนำเอาพระสมเด็จวัดระฆังที่ชำรุดแตกหักมามอบให้พระครูมูลมากขึ้น ทุก ที ๆ ว่ากันว่าพระครูมูลท่านเก็บสะสมชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็น จำนวนมากเป็นปี๊บ ๆ กันเลย เมื่อเก็บรวบรวมชิ้นชิ้น ส่วนแตกหักของพระสมเด็จวัดระฆังได้เป็นจำนวนมากเพียงพอต่อความต้องการแล้ว พระครูมูลจึงเอาชิ้นส่วนพระสมเด็จวัดระฆังเหล่านั้นมาป่นให้ละเอียดและผสม กับปูนขาวเป็นเนื้อหลัก แล้วสร้างเป็นพระสมเด็จขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2484 เป็นพิมพ์เกศบัวตูม เมื่อกดพิมพ์พระได้จำนวนเท่าที่ต้องการแล้ว พระครูมูลท่านได้นำเอาพระสมเด็จที่ท่านสร้างนี้เข้าร่วมพิธีปลุกเสกพร้อมกับ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ที่ทางวัดสุทัศน์จัดขึ้น ความ จริงแล้วพระสมเด็จที่พระครูมูลสร้างขึ้นมาในครั้งนั้นถึงจะไม่นำฝากเข้าร่วม พิธีปลุกเสก ก็มีความศักสิทธิ์ในตัวอยู่แล้ว เนื่องมาจากมีผงเก่าผสมอยู่เป็นจำนวนมากนั่นเอง แต่ด้วยความที่อยากให้พระสมเด็จมีพุทธคุณมากยิ่ง ๆ ขึ้น พระครูมูลท่านจึงเอาพระเข้าร่วมพิธีปลุกเสกด้วย ระหว่างนั้นเมื่อมีใครมาขอพระสมเด็จจากพระครูมูลท่านก็จะหยิบแจกให้ฟรี ๆ ไปเรื่อย ๆ ส่วนที่เหลือเมื่อมีพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์ครั้งใด ท่านก็จะนำเอาพระสมเด็จฝากเข้าร่วมในพิธีอีก ใครมาขอก็แจกให้ ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพระสมเด็จที่ท่านสร้างครั้งแรกหมดไป จนกระทั่งมาในปี พ.ศ. 2495 พระครูมูลท่านได้เอาชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆังที่เหลือจากการสร้างพระ สมเด็จครั้งแรก มาผสมกับชิ้นส่วนของพระสมเด็จวัดระฆัง และพระสมเด็จบางขุนพรหมที่ท่านหามาเพิ่มเติมทีหลังสร้างขึ้นใหม่อีก ครั้งนี้ท่านสร้างเป็นพิมพ์พระธาน แบบมีหน้าตา ซึ่งจะปรากฏรายละเอียดสวยงามกว่าพระสมเด็จพิมพ์เกศบัวตูมที่ท่านสร้างขึ้น ครั้งแรก นอกจากนี้ยังมีการสร้างเป็นพิมพ์นางพญา พิมพ์สามเหลี่ยม และ พิมพ์พระคะแนน ด้วย ซึ่งการสร้างพระสมเด็จของพระครูมูลครั้งหลังนี้ท่านก็ทำเหมือนครั้งแรก คือฝากเข้าพิธีปลุกเสกที่วัดสุทัศน์จัดขึ้นทุกครั้ง แล้วก็แจกไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหมดไปในที่สุด พระสมเด็จของพระครูมูลมีการ นิยมมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้ว สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกพระสมเด็จจากท่านต่างมีประสบการณ์ทางด้านนิรันตราย กันมาก จึงนิยมใช้แทนพระสมเด็จวัดระฆังนับแต่นั้นมา พูดถึงพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยมของพระสมเด็จพระครูมูลก็มีผู้มีประสบการณ์ กันมากไม่รู้เท่าไหร่ ๆ กันแล้ว เพราะว่าไปแล้วการใช้พระสมเด็จพระครูมูลก็เหมือนใช้พระสมเด็จวัดระฆังดี ๆ นั่นเอง นอกจากนี้พระสมเด็จของพระครูมูล โดยเฉพาะพิมพ์ทรงเจดีย์ที่เป็นพระยุคแรกของท่าน จะมีเนื้อหามวลสารเข้มจัดคล้ายกับเนื้อพระสมเด็จวัดระฆังมาก มีการนำพระของท่านมาแกะเปลี่ยนพิมพ์ขายเป็นพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ทรงเจดีย์ ไปแล้วมากมาย แม้แต่ชิ้นส่วนแตกหักของพระสมเด็จของท่านก็นำไปแกะเป็นพระคะแนนแล้วหลอกว่า เป็นชิ้นส่วนสมเด็จวัดระฆังขายไปองค์ละหลายหมื่นบาท เป็นเหตุที่ทำให้ท่านต้องทำพิมพ์พระสมเด็จขึ้นใหม่เป็นพิมพ์แบบมีหน้าตา ในปี 2495 เพื่อแก้ปัญหาคนนำพระของท่านไปหลอกขายแก่ผู้ไม่รู้เสียมากมาย สรุปว่าพระสมเด็จของพระครูมูล เป็นพระที่น่าใช้มาก เพราะเป็นพระตระกูลสมเด็จยุคปลายที่มีส่วนผสมของมวลสารของพระสมเด็จวัดระฆัง ไว้มากที่สุด ในระดับเดียวกับ พระสมเด็จของหลวงปู่นาค วัดระฆัง ที่สร้างยุคต้น พ.ศ. 2485 ทำให้น่าเก็บไว้ศึกษาและบูชาอย่า
ราคาปัจจุบัน
2000
จำนวนผู้เข้าชม
3359 ครั้ง
สถานะ
ยังอยู่
โดย
STW.
ชื่อร้าน
ยังไม่เปิดร้านค้า
URL
-
เบอร์โทรศัพท์
0805504569
ID LINE
stw099
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน
กำลังโหลดข้อมูล
หน้าแรกลงพระฟรี